หลังจากทำทรีตเมนต์

ระหว่างกระบวนการ คุณอาจจะมีความรู้สึกว่าถูกดึง ถูกดูด จิก โดนความเย็นจัด เสียวแปลบ ถูกต่อย คัน และเป็นตะคริวตรงบริเวณที่ทำทรีตเมนต์6 ความรู้สึกเหล่านี้อาจลดลง เนื่องจากบริเวณดังกล่าวถูกทำให้ชา23

หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการ ผลข้างเคียงที่พบ ได้แก่ รอยแดง, บวม, รอยด่าง, รอยช้ำ, ความกระชับ, ความเสียว, ถูกต่อย, ความนุ่มนิ่ม, ตะคริว, ปวด, คัน, ผิวหนังไวต่อความรู้สึก และความรู้สึกชา6 ความรู้สึกชาอาจเป็นอยู่ได้นานหลายสัปดาห์6 ความรู้สึกตื้อๆ หลังคออาจเกิดขึ้นหากมีการทำทรีตเมนต์บริเวณใต้คาง6 ผลกระทบเหล่านี้จะเป็นอยู่ชั่วคราวและจะค่อยๆ หายไปในเวลา 14 วัน6

กระนั้นก็ตาม อาจจะมีผลข้างเคียงบางอย่างที่พบได้ เช่น มีการเพิ่มขึ้นของเซลล์ไขมัน (Paradoxical hyperplasia), อาการปวดอย่างมากในภายหลัง, ผิวไหม้จากความเย็น, อาการหน้ามืดเป็นลม, การแข็งตัวของเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง, สีผิวเข้มขึ้น และไส้เลื่อน อาจเกิดขึ้นได้เช่นกัน6

กระบวนการ CoolSculpting® ไม่สามารถใช้ได้กับทุกคน6 คุณไม่สามารถทำทรีตเมนต์ CoolSculpting® ได้ หากคุณเป็นโรค cryoglobulinaemia, cold agglutinin หรือ paroxysmal cold haemoglobinuria6 กระบวนการ CoolSculpting® ไม่ใช่วิธีการรักษาผู้เป็นโรคอ้วน3

คุณควรปรึกษาแพทย์ของคุณว่ากระบวนการ CoolSculpting® เป็นวิธีที่เหมาะกับคุณหรือไม่ เช่นเดียวกับการเลือกใช้กระบวนการทางการแพทย์อื่นๆ

กระบวนการ CoolSculpting® เป็นกระบวนการที่ไม่มีการทำศัลยกรรม1 ดังนั้น คุณจะสามารถกลับไปทำกิจกรรมตามปกติของคุณได้3,4,23 บ่อยครั้งที่คนไข้สามารถกลับไปทำงานได้หลังจากทำทรีตเมนต์ CoolSculpting® แล้ว3 อย่างไรก็ตาม จะแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล และอาจขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำทรีตเมนต์ด้วย3

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้มีการนัดหมายประเมินผลกับแพทย์ CoolSculpting® ของคุณเพื่อทบทวนผลลัพธ์

คนไข้ส่วนใหญ่จะเห็นผลในระยะเวลา 2 ถึง 6 เดือน1,2,7,8,10-16 หลังจากทำทรีตเมนต์ เซลล์ไขมันที่ตายแล้วจะยังคงถูกกำจัดไปเรื่อยๆ*19,20 ประมาณ 4 ถึง 6 เดือนหลังจากทำทรีตเมนต์22,24